ที่มาของ ปิงปอง

พัชรพล หรือ ปิงปอง เริ่มต้นจากการเป็นนักพูดรุ่นเยาว์ที่มีรางวัลรองรับมากมาย แต่ด้วยความรักในการร้องเพลง ปิงปองจึงได้เริ่มฝึกฝนตนเองในด้านการร้องและเข้าประกวดในงานต่างๆ มากมายแต่เมื่อความจำเป็นของชีวิตที่จะต้องทำงาน ปิงปองก็ได้เริ่มงานแรกในกระทรวงกลาโหมในปี 2540 ซึ่งแม้ว่าจะมีกฎระเบียบมากมายในการใช้ชีวิต แต่ก็ไม่สามารถหยุดความฝันสำหรับการร้องเพลงได้ ชีวิตของปองจึงถูกแบ่งออกเป็นสองภาค คือ ภาคกลางวันที่เป็นทหารผู้ตรวจสอบปัญชีกลาโหม (สตช.กห.) และในภาคกลางคืนที่เป็นนักร้องใน ผับต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ และ ชลบุรี
ซึ่งต้องทำลับๆ เพื่อไม่ให้เสียงานภาคกลางวัน แม้จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน แต่ก็ไม่ทำให้ปิงปองอ่อนล้าไปกับการให้ชีวิตทั้งสองภาคของเค้า กลับทำให้ปองเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านการร้องเพลงได้อย่างดี แต่ในที่สุดช่วงเวลาที่ผลิกผันของชีวิตก็มาถึง เมื่อทางกระทรวงฯ ได้ทราบข่าวในการทำงานกลางคืนของปิงปอง ซึ่งด้วยกฎระเบียบราชการอาจไม่เป็นการเหมาะสมนักที่จะแบ่งการทานในลักษณะนี้ และในบางครั้งความล้าของร่างกายในภาคกลางคืนก็ส่งผลกับงานราชการ เมื่อมีการขาดราชการเกินกำหนด ปิงปองก็ถูกลงโทษขังคุกเป็นเวลานานกว่า สัปดาห์ โดยที่ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย เมื่อพ้นโทษออกมาก็รู้ว่าทางวงดนตรีได้ไล่ ปิงปองออกเนื่องจากขาดการติดต่อ และเมื่อทนการกดดันจากงานราชการไม่ไหวก็เลยขอลาออกเพื่อมาทำงานที่ปองรักมากที่สุดคือการร้องเพลง ในระหว่างนั้นเองที่แม้แต่งานร้องเพลงก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก เนื่องจากบางร้านที่ปองไปเล่นนั้นเกิดการเปลี่นยมือผู้ถอหุ้นบ่อยครั้ง จนแม้กระทั้งปิดกิจการจากสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ จังหวะนั้นเองทำให้ปิงปองเริ่มท้อแท้กับชะตาชีวิต
ทำให้ปิงปองออกเดินทางท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ โดยที่ไม่ได้ติดต่อกับใครๆ แม้กระทั่งเพื่อนที่สนิทที่สุดเป็นเวลาเกือบสองปี เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อเพื่อนคนหนึ่งคิดจะเปิดร้านอาหารด้วยตนเอง ซึ่งเป็นช่วงที่ปิงปิองติดต่อกลับมาหาเพื่อนพอดี จึงได้มาร่วมงานกัน และได้กลับมาร้องเพลงอีกครั้ง ฟ้าได้ส่งให้ลูกค้าซึ่งมากินที่ร้านพบปิงปอง และเห็นว่าน่าจะให้ปิงปองเข้าประกวด ไทยแลนด์ คาราโอเกะ เวิล์ด แชมเปี้ยนชิพ จึงจุดประกายการเป็นนักร้องอีกครั้งหนึ่งของปิงปองเมื่อปิงปองได้เป็นผู้ชนะเลิศอันดับหนึ่ง ในการประกวด ไทยแลนด์ คาราโอเกะ เวิล์ด แชมเปี้ยนชิพ และได้ถูกส่งตัวเข้าประกวด คาราโอเกะในระดับโลกที่ประเทศฟินแลนด์ และคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับสามของโลก จากประเทศที่เข้าประกวดมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลกจึงเป็นการการันตีได้ถึงความสามารถในการร้องเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ และการแสดงบนเวทีที่สามารถตรึงผู้ชมให้สนุกสนานไปกับปิงปองได้ วันนี้ปิงปองพร้อมแล้วสำหรับการเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ สำหรับโชว์ทุกๆ การแสดงในเมืองไทย พัชรพล อติเปรมานนท์

my favorite clip HIPPOK-9

"The Lion Sleeps Tonight"

1 comment:

ba said...

tremendous !